การตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปีต้องตรวจสอบกี่ครั้งถึงจะถูกต้องตามกฏหมาย

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี เพื่อให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปีถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกสถานประกอบกิจการจะต้องจัดให้มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในสถานประกอบกิจการของตนเอง และภายในกระบวนการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าของเราและบริภัณฑ์ต่างๆ ยังสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้เราควรจัดทำแผนงานการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าควรจะทำการตรวจสอบโดยวิศวกรไฟฟ้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามมาตรา 9 ของกฎหมายกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานฉบับล่าสุดโดยผู้ที่ทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจะต้องทำการขึ้นทะเบียนบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบและทดสอบระบบไฟฟ้าถึงจะสามารถทำการตรวจสอบได้อย่างถูกต้อง

 

 

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ กับผู้ปฏิบัติงานทั้งด้านของการถูกไฟฟ้าช็อตและการเกิดอัคคีภัยหรือไฟไหม้ในสถานประกอบการ สิ่งเหล่านี้มักจะพบเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง เช่น

  • ระบบไฟฟ้าถูกติดตั้งโดยไม่ได้มาตรฐาน
  • หรือมีการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ตรงตามขนาดที่มาตรฐานกำหนด เช่น ใช้สายไฟเบอร์เล็กเกินขนาดของกระแสไฟฟ้า เป็นต้น
  • หรืออาจมีการไม่ได้ตรวจสอบ ตัวตัดไฟฟ้าฉุกเฉินเบ็คเกอร์ภายในตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าเมื่อเกิดการลัดวงจร ตัวตัดระบบไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์จึงทำให้เกิดอัคคีภัยได้

 

 

ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าควรได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอรวมไปถึงการทำการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าประจำปี หรือการทำ PM ระบบไฟฟ้าและหม้อแปลงไฟฟ้า ควรมีการตรวจวัด ค่าความเป็นฉนวนหม้อแปลงไฟฟ้าและตรวจสอบสารดูดความชื้นว่ายังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หากดูแล้วตัวดูดสารความชื้นเสื่อมสภาพแนะนำให้รีบเปลี่ยนทันทีหรือทำการเปลี่ยนทุกๆหนึ่งปีเมื่อทำพีเอ็มหม้อแปลงไฟฟ้าก็ได้

 

 

การวางแผนตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปีปัจจุบัน

สามารถทำได้โดยไม่ต้องทำการตัดไฟหรือระบบไฟฟ้าสามารถตรวจสอบได้ โดยที่ยังมีการผลิตและจ่ายไฟตามปกติ เนื่องจากการตรวจสอบระบบไฟฟ้าดังกล่าววิศวกร ผู้ตรวจสอบจะต้องทำการดูกำลังไฟฟ้าที่ใช้จริงในวันตรวจนั้นๆ ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ อีกอย่างที่สำคัญคือ การทำระบบเทอร์โมสแกนอุปกรณ์ไฟฟ้า จะช่วยให้เราได้เห็นถึงความผิดปกติในอุณหภูมิความร้อน ที่สะสมในอุปกรณ์ และจุดต่อต่างๆภายในระบบไฟฟ้า ว่ามีอุณหภูมิปกติหรือไม่ หากมีจุดไหนที่เราใช้กล้องส่องความร้อนดู แล้วพบความผิดปกติว่ามีอุณหภูมิร้อนสูงมากเกินที่กำหนด นั่นหมายความว่าเราควรมีการบันทึกเพื่อวางแผนในการทำการบำรุงรักษาประจำปี หรือเมื่อมีการตัดไฟเพื่อซ่อมบำรุง ควรถือโอกาสนั้นบำรุงซ่อมแซมจุดที่เป็นปัญหาดังกล่าว เพื่อป้องกันการเกิดเบรคดาวน์ อุปกรณ์ชำรุดและทำให้กระแสไฟฟ้าดับกระทันหัน

สิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะสร้างความเสียหายหนักมากกว่าการซ่อมแซมอุปกรณ์ตามแผนงานของเรา